อังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการค้าขายกับไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้การส่งพัสดุไปต่างประเทศโดยเฉพาะอังกฤษนั้น มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไป ผู้ที่ต้องการส่งสิ่งของไปยังประเทศนี้จึงควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนดำเนินการ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการติดขัดที่ศุลกากร ความล่าช้าในการขนส่ง หรือการสูญเสียสินค้า
การเข้าใจกระบวนการขนส่งต่างประเทศที่ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่น ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งของไปอังกฤษ ตั้งแต่ขั้นตอน วิธีการ สินค้าต้องห้าม ภาษี และค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อให้การส่งของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น
การส่งของจากลอนดอนมาไทย กี่วันถึง
ก่อนที่จะพูดถึงขั้นตอนและวิธีการส่งของไปอังกฤษ เรามาทำความเข้าใจกับระยะเวลาในการขนส่งกันก่อน หากพูดถึงการส่งของจากลอนดอนมาไทยกี่วัน หรือจากไทยเป็นอังกฤษนั้น จะใช้เวลาในการขนส่งตั้งแต่ 3-5 วันทำการ ไปจนถึง 4-8 สัปดาห์ ด้วยระยะเวลาดังกล่าว ผู้ที่ต้องการส่งของไปอังกฤษจะต้องทำการวางแผนและเลือกวิธีการขนส่งให้เหมาะสมกับความต้องการของสินค้าแต่ละชนิด
การส่งของไปอังกฤษจากไทย มีวิธีใดบ้าง
การส่งของไปอังกฤษจากประเทศไทยมีอยู่ด้วยกัน 2 ช่องทางหลัก ดังนี้
-
การขนส่งทางอากาศ: เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับการส่งพัสดุไปต่างประเทศแบบเร่งด่วน การส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือสิ่งของที่เน่าเสียง่าย แม้จะมีต้นทุนสูง แต่ให้ความปลอดภัยและความรวดเร็วที่เหนือกว่า การส่งของไปอังกฤษทางอากาศจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 วันทำการสำหรับการขนส่งแบบด่วน และ 7-14 วันทำการสำหรับบริการแบบประหยัด
-
การขนส่งทางทะเล: เหมาะสำหรับสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก หรือสินค้าที่ไม่เร่งด่วน ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการขนส่งทางอากาศมาก แต่ใช้เวลานานกว่า ตั้งแต่ 4-8 สัปดาห์
การส่งของไปอังกฤษ จะไม่มีวิธีการขนส่งทางบกเช่นเดียวกับการส่งของไปสิงคโปร์ เนื่องจากอังกฤษไม่มีแผ่นดินที่สามารถเชื่อมกับประเทศไทยและด้วยระยะที่ห่างจนเกินไป ทำให้การขนส่งด้วยรถยนต์ทางบกอาจไม่เหมาะสมเท่าไร
วิธีการส่งของไปอังกฤษทั้งสองนั้น ต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปและผู้ส่งควรเลือกรูปแบบการขนส่งตามความเหมาะสมกับประเภทสินค้า งบประมาณ รวมถึงระยะเวลาที่ต้องการ
สินค้าต้องห้ามในการส่งของไปอังกฤษมีอะไรบ้าง
สินค้าต้องห้ามในการส่งของไปอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากส่งสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตไป ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม อาจทำให้พัสดุถูกยึด มีการปรับเงิน หรือแม้กระทั่งการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกลุ่มสินค้าต้องห้ามที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามายังประเทศอังกฤษ สามารถแบ่งได้ดังนี้
-
สิ่งเสพติดและสารต้องห้าม: ยาเสพติดทุกประเภท กัญชา และสารสกัดจากกัญชา ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายและถูกห้ามนำเข้าอย่างเด็ดขาด
-
สัตว์และสิ่งมีชีวิต: ไม่สามารถส่งผ่านช่องทางไปรษณีย์ปกติได้ หากต้องการส่งสัตว์เลี้ยงต้องใช้บริการเฉพาะและผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากเป็นสินค้าจากสัตว์หรือพืชที่ใกล้สูญพันธุ์จะถูกห้ามนำเข้าประเทศเด็ดขาด
-
อาหารสดและผลิตภัณฑ์จากสัตว์: เช่น เนื้อสัตว์สด หมูหยอง กุนเชียงหมู หนังไก่ทอด และผลิตภัณฑ์ที่มีไข่เป็นส่วนประกอบ ล้วนถูกห้ามนำเข้าประเทศอังกฤษ
-
ผลิตภัณฑ์จากนม: เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต นมผง และผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนประกอบหลัก ต้องได้รับใบอนุญาตพิเศษจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
-
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ผสมมากกว่า 22% แต่ไม่เกิน 70% จะถูกจำกัดจำนวนในการนำเข้า ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ผสมมากกว่า 70% จะถูกนับเป็นสินค้าต้องห้าม
-
วัตถุระเบิดและสารไวไฟ: เช่น ดอกไม้ไฟ ประทัด สเปรย์ต่างๆ และแบตเตอรี่ลิเธียมบางประเภท
-
ยารักษาโรค: โดยเฉพาะยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์ ยกเว้นยาสามัญประจำบ้านบางชนิด
-
เงินตราและสิ่งของมีค่า: เช่น ธนบัตร บัตรเครดิต พันธบัตร ทองคำ และอัญมณี
-
สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์: เช่น สินค้าแบรนด์เนมปลอม และสื่อลามกอนาจาร เป็นต้น
-
อุปกรณ์ป้องกันตัว: เช่น สเปรย์พริกไทย และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ถือเป็นอาวุธ
การส่งของไปอังกฤษ ภาษีคิดอย่างไร
เมื่อพูดถึงการส่งของไปอังกฤษ ภาษีถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่สำคัญและซับซ้อน เพราะเกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าของอังกฤษที่มีหลายระดับและเกณฑ์การเรียกเก็บที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน โดยภาษีนำเข้าและเกณฑ์การเก็บภาษีของประเทศอังกฤษมีด้วยกัน ดังนี้
-
เกณฑ์การเก็บภาษี: อังกฤษจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 39 ปอนด์สเตอร์ลิง สำหรับของขวัญ และ 135 ปอนด์สเตอร์ลิง สำหรับสินค้าพาณิชย์และมีอัตราภาษีแตกต่างกันตามประเภทสินค้าที่นำเข้า หากไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับการยกเว้นภาษี
-
VAT (Value Added Tax): สินค้าส่วนใหญ่จะถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่อัตรา 20% โดยการคำนวณจะรวมทั้งมูลค่าสินค้า ค่าขนส่ง และภาษีนำเข้า
-
Customs Duty: ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บตามประเภทสินค้า อัตราจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 0% ถึง 25% หรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า
-
การคำนวณภาษีรวม: ผู้รับพัสดุต้องชำระทั้งภาษีนำเข้าและ VAT พร้อมกับค่าธรรมเนียมการจัดการของบริษัทขนส่ง ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ
การวางแผนเรื่องภาษีนำเข้าล่วงหน้าจะช่วยให้ผู้รับเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น สามารถเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับชำระภาษีได้ทันท่วงที เพื่อป้องกันปัญหาและความล่าช้าในการส่งมอบ
นอกจากนี้ ประเทศอังกฤษและสหราชอาณาจักรได้มีการประกาศนโยบายภาษีนำเข้าใหม่ชื่อ UK Global Tariff (UKGT) สำหรับประเทศที่ยังไม่มีข้อตกลงการค้า เช่น ประเทศไทย ที่จะได้การยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าถึง 60% ของรายการสินค้าทั้งหมด มีการปรับอัตราภาษีให้เอื้อต่อภาคธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมว่าสินค้าของเราเข้าข่ายที่กำหนดหรือไม่
เอกสารที่ต้องใช้ในการส่งของไปอังกฤษ
การเตรียมเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วนเป็นขั้นตอนสำคัญในการส่งของไปอังกฤษให้ราบรื่น ไร้ปัญหา เพราะหากขาดเอกสารใดไป หรือมีเอกสารที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความล่าช้าหรือถูกส่งพัสดุคืนได้ โดยเอกสารหลักที่จำเป็นต้องใช้ มีดังนี้
เอกสารที่จำเป็น
Commercial Invoice
ใบกำกับสินค้า หรือ ใบแจ้งหนี้เชิงพาณิชย์ เป็นเอกสารที่ระบุรายละเอียดสินค้า ราคา และข้อมูลผู้ส่ง-ผู้รับ ซึ่งต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน เนื่องจากใบกำกับสินค้าจะถูกใช้เป็นหลักในการประเมินภาษีต่างๆ
Packing List
ใบกำกับหีบห่อ เป็นรายการสินค้าในพัสดุที่ระบุจำนวน น้ำหนัก และขนาด ช่วยให้การตรวจสอบและติดตามสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย
Bill of Lading/Air WayBill
ใบตราส่งสินค้า เป็นเอกสารขนส่งที่ทำหน้าที่เป็นหลักฐานการส่งสินค้าระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ โดยแบ่งเป็นใบตราส่งสินค้าทางทะเล (Bill of Lading - B/L) และใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (Air Waybill - AWB)
Export Declaration
ใบขนสินค้าขาออก เป็นเอกสารสำคัญสำหรับสินค้าที่เดินทางออกจากประเทศไทย เพื่อแจ้งข้อมูลให้กับกรมศุลกากรทราบ และทำการตรวจสอบ จัดเก็บภาษีต่อไป
เอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม
เอกสารอื่นๆ สำหรับใช้อ้างอิงหรือยื่นประกอบในบางขั้นตอน เช่น
Certificate of Origin
หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า จำเป็นเฉพาะเมื่อต้องการสิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรี สินค้ามีข้อจำกัดการนำเข้าตามประเทศต้นกำเนิด หรือถูกกำหนดโดยประเทศปลายทาง
Health Certificate
ใบรับรองสุขภาพ สำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอางบางชนิด ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และอุปกรณ์การแพทย์
CE Certificate
ใบรับรองมาตรฐาน CE สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ความปลอดภัย
Additional Permits
ใบอนุญาตพิเศษ สำหรับสินค้าควบคุม เช่น ยาและเวชภัณฑ์ อาวุธและกระสุน วัตถุอันตราย งานศิลปะและโบราณวัตถุ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
Import License
ใบอนุญาตนำเข้า สำหรับสินค้าที่มีข้อจำกัด หรือต้องควบคุมโดยหน่วยงานเฉพาะ
ขั้นตอนการส่งของไปอังกฤษ
ขั้นตอนการส่งของไปอังกฤษจะมีความคล้ายคลึงกับการส่งของไปอเมริกาและการส่งของไปเยอรมัน โดยจะต้องผ่านขั้นตอนตรวจสอบการนขนส่งที่เข้มงวด ทำให้หากเข้าใจขั้นตอนต่างๆ และปฏิบัติตามอย่างเป็นระบบจะช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ช่วยให้การส่งของไปอังกฤษของเรานั้นราบรื่นและตรงตามกำหนด โดยขั้นตอนสำคัญในการส่งของไปอังกฤษ มีดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมสินค้าและบรรจุภัณฑ์
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าสินค้าของเราสามารถส่งของไปอังกฤษได้หรือไม่ เมื่อตรวจสอบจนมั่นใจแล้ว จึงเริ่มการบรรจุสินค้าให้พร้อมสำหรับการขนส่ง
ขั้นตอนที่ 2: การเลือกบริษัทขนส่ง
ขั้นตอนต่อมา คือการตัดสินใจว่าจะส่งของไปอังกฤษ เจ้าไหนดี โดยเปรียบเทียบราคา การบริการ และความน่าเชื่อถือ รวมถึงการรับประกันความเสียหายของสินค้าเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน สำหรับบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการที่ยังไม่มั่นใจในข้อกำหนดต่างๆ แนะนำให้เลือกบริษัทขนส่งที่มีบริการดูแลและให้คำปรึกษาได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่วิธีการขนส่ง ข้อควรระวัง และการดำเนินพิธีศุลกากรของแต่ละประเทศ
ขั้นตอนที่ 3: การกรอกข้อมูลและเอกสาร
กรอกข้อมูลผู้ส่ง-ผู้รับให้ถูกต้อง จัดทำ Commercial Invoice และเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดการเรื่อง EORI Number สำหรับการส่งของไปอังกฤษเชิงพาณิชย์
ขั้นตอนที่ 4: การส่งพัสดุ
นำพัสดุไปส่งที่สาขาของบริษัทขนส่งหรือใช้บริการรับพัสดุถึงที่สำหรับการส่งของไปต่างประเทศ ตรวจสอบใบเสร็จและเลขติดตามพัสดุว่าถูกต้องและใช้งานได้หรือไม่
ขั้นตอนที่ 5: ดำเนินพิธีการศุลกากรในการส่งออกสินค้า
พัสดุจะผ่านดำเนินพิธีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศและอาจได้รับการสุ่มตรวจสินค้า หากได้รับการยกเว้นหรือผ่านการตรวจเรียบร้อยแล้ว กรมศุลกากรจึงจะทำการออกใบขนสินค้าขาออกและอนุญาตให้พัสดุเดินทางออกนอกประเทศได้
ขั้นตอนที่ 6: การติดตามพัสดุ
ใช้เลขติดตามเพื่อตรวจสอบสถานะการขนส่งผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทขนส่ง
ขั้นตอนที่ 7: ดำเนินพิธีการศุลกากรอังกฤษ
เมื่อพัสดุเดินทางถึงประเทศปลายทางแล้วจะเข้าสู่ระบบศุลกากรของอังกฤษ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและประเมินภาษีนำเข้า ในกรณีที่ต้องเสียภาษี ผู้รับจะได้รับแจ้งและต้องชำระก่อนรับพัสดุ
ขั้นตอนที่ 8: การส่งมอบ
หลังผ่านพิธีการศุลกากรและชำระภาษี (หากมี) เรียบร้อยแล้ว พัสดุจะถูกส่งมอบให้ผู้รับตามที่อยู่ที่ระบุไว้เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน
รวมเคล็ดลับ ส่งของไปอังกฤษอย่างไรให้ราบรื่น
เตรียมความพร้อมล่วงหน้า
การวางแผนการส่งของไปอังกฤษ ล่วงหน้าเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ ควรเริ่มเตรียมเอกสารและสอบถามข้อมูลก่อนเริ่มส่งสินค้าล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันความล่าช้าและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าต้องห้ามและข้อจำกัดให้ละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าและขั้นตอนการส่งของเราสอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ
เลือกบริษัทขนส่งที่เหมาะสม
สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่หรือบุคคลทั่วไป แนะนำให้เลือกบริษัทขนส่งไปอังกฤษ ที่มีบริการดูแลพิธีการศุลกากรต่างๆ และบริการรับพัสดุถึงที่ เพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวก ควรพิจารณาบริษัทที่มีประสบการณ์ส่งของไปอังกฤษ ราคาค่าส่งของไปต่างประเทศที่สมเหตุสมผล มีระบบติดตามพัสดุที่ครอบคลุม สามารถให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ อย่างชัดเจน
ระบุข้อมูลให้ถูกต้อง
ข้อมูลที่ผิดพลาดเป็นสาเหตุหลักของความล่าช้าในการขนส่ง จึงต้องตรวจสอบชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และมูลค่าสินค้าให้แม่นยำ การกรอกข้อมูลใน Commercial Invoice ต้องสอดคล้องกับสินค้าจริง และระบุวัตถุประสงค์การส่ง เช่น ของขวัญ ตัวอย่างสินค้าหรือการซื้อขายพาณิชย์ ให้ชัดเจน เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
ติดตามสถานะการส่งอย่างใกล้ชิด
การใช้เลขติดตามเพื่อตรวจสอบสถานะการขนส่งอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ทราบความคืบหน้าของพัสดุ และสามารถเตรียมประสานงานกับผู้รับเมื่อพัสดุใกล้ถึงปลายทาง
เตรียมงบประมาณภาษีนำเข้า
ประสานงานกับผู้รับให้เตรียมงบประมาณสำหรับชำระภาษีนำเข้า VAT และค่าธรรมเนียมการจัดการ เพื่อไม่ให้พัสดุติดค้างที่ศุลกากรและส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การส่งของไปอังกฤษ ไม่ใช่เรื่องยากหากเข้าใจขั้นตอนและปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างถูกต้อง การเลือกพาร์ทเนอร์ขนส่งที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การส่งพัสดุของคุณถึงปลายทางอย่างปลอดภัยและตรงเวลา ทำให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับได้รับประสบการณ์ที่ดีในการขนส่งระหว่างประเทศ
เลือก FBA Easy พาร์ทเนอร์ที่ใช่ สำหรับการส่งของไปต่างประเทศ
FBA Easy คือ บริษัทขนส่งต่างประเทศที่ครอบคลุมตั้งแต่การส่งเอกสาร ส่งพัสดุไปต่างประเทศ และจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศครอบคลุมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นส่งของไปอเมริกา ยุโรป หรือเอเชีย พร้อมทางเลือกการขนส่งที่หลากหลายทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล ผ่านความร่วมมือกับบริษัทขนส่งชั้นนำกว่า 10 ราย รวมถึงมีบริการ Amazon FBA การจัดส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าของ Amazon ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และเยอรมัน FBA Easy ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องส่งของไปต่างประเทศ
ติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
LINE: @kartonexpress
Email: admin@karton.express
Facebook: www.facebook.com/fbaeasy